มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ

เกี่ยวกับมูลนิธิ

ศูนย์ฮอทไลน์เป็นองค์การพัฒนาเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย ที่ให้บริการปรึกษาแนะนำทางโทรศัพท์ (Telephone Counseling Center) โดยนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ รวมไปถึงนักวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง

ประเภทขององค์การ

องค์การพัฒนาเอกชนและไม่แสวงหาผลกำไร (Non-Governmental & Non-Profit Organization)

ศูนย์บริการปรึกษาแนะนำทางจิตวิทยา (Psychological Counseling Center)

ศูนย์ให้ความช่วยเหลือในภาวะวิกฤต (Crisis Center)

องค์การที่มุ่งเน้นบริการผู้หญิง (Women-Oriented Organization)

สถาบันฝึกอบรมทางจิตวิทยา (Training School for Psychology)

คลินิกจิตบำบัด (Private Practice Clinic in Psychotherapy)

เป้าหมายและนโยบาย

มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์มีเป้าหมายที่มุ่งจะให้ความช่วยเหลือผู้ใช้บริการผ่านกระบวนการให้คำปรึกษาแนะนำและจิตบำบัด (Counseling and psychotherapy) เพื่อให้บุคคลสามารถช่วยเหลือตนเอง และผู้อื่นได้ต่อไปในอนาคต และยังมุ่งพัฒนานักวิชาชีพที่นำเทคนิคการให้คำปรึกษาแนะนำมาให้บริการประชาชน เพื่อให้เทคนิคนี้เป็นที่ยอมรับในสังคมไทย ถึงแม้การให้บริการของมูลนิธิฯ จะเปิดกว้างแก่ประชาชนทั่วไป แต่เรายังมีนโยบายหลักที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้หญิง เด็ก วัยรุ่น และครอบครัวที่ด้อยโอกาสในสังคม

วัตถุประสงค์ของมูลนิธิ

วัตถุประสงค์หลักของมูลนิธิสรุปได้สองประการใหญ่ คือ

ประการแรก เพื่อให้บริการปรึกษาแนะนำปัญหาด้านสุขภาพจิต ชีวิต และโรคเอดส์แก่ประชาชนทุกระดับ เพื่อลดความตึงเครียด และสนับสนุนให้บุคคลสามารถดูแลปกป้อง ตนเองและครอบครัวได้ในขณะเดียวกันก็มุ่งพัฒนาระบบโครงสร้างการติดต่อสื่อสารของสังคมไทยไปสู่รูปแบบของการติดต่อสื่อสารสองทาง (Two-way communication) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

ประการที่สอง เพื่อส่งเสริมวิชาชีพทางการให้คำปรึกษาแนะนำ (Counseling) ซึ่งให้บริการโดยนักวิชาชีพทางสังคมจิตวิทยาหรือนักวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้เป็นที่ยอมรับของผู้คนในสังคมไทย โดยสนับสนุนทั้งทางด้านข้อมูล การศึกษาวิจัย และการฝึกอบรม ทั้งนี้มูลนิธิไม่มีวัตถุประสงค์ที่มุ่งเน้นการเผยแพร่ศาสนาหรือดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด

กลุ่มเป้าหมาย

  1. ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว ถูกกระทำหรือถูกคุกคามทางเพศ เช่น ถูกทุบตี ถูกข่มขืน หญิงตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ หญิงตั้งครรภ์นอกสมรส ตลอดจนหญิงวัยรุ่นที่ต้องการความช่วยเหลือภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
  2. ผู้หญิงด้อยโอกาสทุกระดับชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่บ้านทั่วไป หญิงขายบริการ หรือเคยขายบริการ และเหยื่อจากการค้ามนุษย์ข้ามชาติ
  3. หญิงชายวัยรุ่นทั่วไปที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต
  4. หญิงชายที่มีปัญหาขัดแย้งทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต
  5. ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ป่วยเอดส์ ซึ่งต้องการกำลังใจ ความเข้าใจ บริการปรึกษาแนะนำในการดูแลตนเอง ตลอดจนสมาชิกในครอบครัวและผู้ที่เกี่ยวข้อง
  6. กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักวิชาชีพ ได้แก่
    1. กลุ่มวิชาชีพทางสังคมจิตวิทยา – นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักสังคมศาสตร์
    2. กลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข – พยาบาล สุขศึกษา แพทย์ นักสาธารณสุข
    3. กลุ่มวิชาชีพทางการศึกษา – ครูอาจารย์, นักการศึกษา, ศึกษานิเทศน์
    4. กลุ่มวิชาชีพในกระบวนการยุติธรรม – ตำรวจ, อัยการ, ทนายความ, ผู้พิพากษา
    5. กลุ่มนักศึกษาในกลุ่มวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง – นักศึกษาและคณาจารย์ในสาขาที่เกี่ยวข้อง

ประวัติความเป็นมา

ศูนย์ฮอทไลน์ ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือของผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง (คุณอาติ โมฮินดรา, คุณนิรมล พฤฒาธร, อาจารย์ ปิยะลักษณ์ สิมะแสงยาภรณ์ เป็นต้น) โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ อรอนงค์ อินทรจิตร เป็นผู้อำนวยการและบริหารโครงการ นับตั้งแต่ปลายปี 2527 เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในกรุงเทพมหานคร ในช่วงแรกมีนโยบายที่จะให้บริการเฉพาะผู้หญิงด้อยโอกาส ตลอดจนกลุ่มวัยรุ่นทั่วไป เนื่องจากตระหนักว่าผู้หญิงและแม่บ้านทั่วไปใช้เวลาส่วนใหญ่ในการปรนนิบัติสามี และดูแลลูก ๆ และยังอาจต้องทำงานเพื่อหาเงินมาจุนเจอครอบครัวด้วย จนแทบไม่มีเวลาจะให้กับตนเอง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาความทุกข์หรือความคับข้องใจ อาจไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ไม่สามารถและไม่กล้าพอจะไปขอรับบริการจาก แพทย์ตามโรงพยาบาลทั่วไปได้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาความยุ่งยากและการเสียเวลาในการเดินทาง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ตลอดจนเวลาที่ยาวนานในการรอพบแพทย์ อีกทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทำให้ผู้หญิงแม่บ้านส่วนใหญ่หมดกำลังใจและขาดโอกาส ในการรับบริการ แต่ทำให้ต้องสะสมความเครียด เกิดความเก็บกด เป็นภาระทางจิตใจทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เมื่อให้บริการไปเพียงระยะไม่กี่เดือน ผู้ชายที่เป็นทั้งคู่สมรส และผู้ที่มีปัญหาส่วนบุคคลได้เข้ามาขอใช้บริการด้วย ดังนั้นจึงทำให้บริการนี้เปิดกว้างแก่ประชาชนทั่วไปที่มีปัญหา แต่เน้นกลุ่มของผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคมก่อน อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือต้องเกิดขึ้นจากทั้งผู้ใช้บริการและนักวิชาชีพด้วย

การที่ผู้คนในสังคมไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้บริการสุขภาพจิตทางมูลนิธิฯ จึงต้องให้บริการไปพร้อมกับการให้ความรู้ความเข้าใจว่าสามารถใช้บริการได้อย่างไร และส่งเสริมวิชาชีพทางด้านจิตวิทยาและจิตเวชที่มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของประเทศ ผู้คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าสุขภาพจิตเป็นเรื่องไกลตัวที่จะไปปรึกษาใคร บริการของมูลนิธิฯ จึงเริ่มต้นโดยการใช้โทรศัพท์เป็นสื่อกลาง ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถประหยัดเวลา ปรึกษาได้ทันที ประหยัดเงิน เพราะให้บริการฟรี และไม่จำ เป็นต้อง เปิดเผยตนเองหรือชื่อที่แท้จริงของผู้ใช้บริการ (Anonymity) ชั่วระยะเวลาไม่นาน บริการก็เป็นที่นิยมและยอมรับของผู้คนในสังคมอย่างกว้างขวางจากวันที่เริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ ปริมาณบริการได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้สนับสนุนโทรศัพท์ที่สามารถโทรฯ เข้าฟรีได้จากทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2539 บริการของ ศูนย์ฮอทไลน์แพร่กระจายไปอย่างทั่วถึงทุกมุมของประเทศ และเข้าสู่ชนทุกกลุ่มด้วยบริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายหรือเสียค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด

ศูนย์ฮอทไลน์สาขาต่างจังหวัด

สำหรับการขยายสาขาศูนย์ฮอทไลน์ในต่างจังหวัด ได้เริ่มขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นศูนย์กลางของภาคเหนือในปี 2529 ภาคใต้ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น ในปี 2530 แต่ศูนย์ฮอทไลน์ทุกสาขาในต่างจังหวัดขณะนี้หยุดให้บริการ เนื่องจากปัญหาด้านงบประมาณและบุคลากร นอกจากนั้น ศูนย์ฮอทไลน์ยังเป็นตัวแบบ (Model) ให้องค์การภาครัฐบาลและเอกชนหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้หันมาสนใจศึกษาเรียนรู้ อีกทั้งเปิดให้บริการกับประชาชนได้เช่นเดียวกัน

นับตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา ศูนย์ฮอทไลน์กรุงเทพฯ และสาขาต่างจังหวัดได้เปิดบริการให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแนะนำเอชไอวี/เอดส์ (HIV/AIDS Counseling) เพิ่มขึ้นโดยเน้นกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์และสมาชิกในครอบครัว กลุ่มผู้หญิงและวัยรุ่น ตลอดจนประชาชนทั่วไป ด้วย โดยใช้ชื่อว่า คลินิกเอชไอวี/เอดส์ (Hotline HIV/AIDS Counseling Clinic) และในปี 2536 ได้เปิดบ้านพักของวันพรุ่งนี้ (The House of Tomorrow) ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นบ้านพักชั่วคราวสำหรับผู้หญิงและเด็กที่ประสบ ปัญหาในภาวะวิกฤต เหยื่อความรุนแรงในครอบครัว เหยื่อการค้ามนุษย์ รวมทั้งผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวี/ป่วยเอดส์

การบริหาร

คณะกรรมการที่ปรึกษาของมูลนิธิ

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา
คุณหญิง จำนงศรี หาญเจนลักษณ์ กรรมการที่ปรึกษาทั่วไป
แพทย์หญิง สุพัฒนา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการที่ปรึกษาทั่วไป
อาจารย์ ดาราวรรณ ธรรมารักษ์ กรรมการที่ปรึกษาทั่วไป
คุณเสาวนีย์ เวชชาชีวะ เชาวน์ชูเวชช กรรมการที่ปรึกษาทั่วไป
รองศาสตราจารย์ ดร. สุวัจฉรา เปี่ยมญาติ กรรมการที่ปรึกษาทั่วไป
อาจารย์ ปิยะลักษณ์ สิมะแสงยาภรณ์ กรรมการที่ปรึกษาทั่วไป
คุณวรนุช โตเจริญ ที่ปรึกษาด้านการบัญชีและการเงิน
คุณเชาวลิต สวัสดิรักษา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
พ.ต.อ.ทัศนัย โอฬาริกเดช ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

คณะกรรมการบริหารมูลนิธิ

ผศ.พิเศษ อรอนงค์ อินทรจิตร ประธานกรรมการบริหาร
อาจารย์ ดร. มาร์จอรี สุริยะมงคล รองประธานกรรมการ
คุณสรัญญา พฤฒิธรรมกูล เหรัญญิกและกรรมการ
อาจารย์ ดร.นรินทร์ กรินชัย เลขาธิการและกรรมการ

ฝ่ายบริหารมูลนิธิ

ผศ.พิเศษ อรอนงค์ อินทรจิตร ผู้อำนวยการและนักจิตบำบัด
อาจารย์ ดร.นรินทร์ กรินชัย รองผู้อำนวยการและนักจิตวิทยา

วิทยากรฝึกอบรม

อาจารย์ ดร. อนงค์ภาณุช ปะนะทังถิรวิทย์ นักจิตวิทยา
อาจารย์ กมลเศรษฐ์ เก่งการเรือ นักสังคมสงเคราะห์
อาจารย์ สมชาติ ทาแกง นักจิตวิทยา
อาจารย์ ปฏิญญา สุริวงศ์ นักพัฒนาบุคลากร
อาจารย์ ปฏิมา ไทยสม นักพัฒนาบุคลากร
นายเทพลักษณ์ กรินชัย นักกฎหมาย

ประสบการณ์และบริการ

1) บริการให้คำปรึกษาแนะนำและการทำจิตบำบัด (General Psychological Counseling and Psychotherapy Service) ทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ให้บริการประเภทต่าง ๆ ดังนี้ คือ

การให้คำปรึกษาแนะนำทางโทรศัพท์ (Telephone Counseling) ปรึกษาปัญหาชีวิต ครอบครัว วัยรุ่น โรคเอดส์ และสุขภาพจิตทั่วไป โดยนักจิตวิทยา ฮอทไลน์สายด่วน โทรฟรีทั่วประเทศ 0-2277 8811, 0-2277-7699 (ฟรีเฉพาะเครื่องโทรศัพท์สาธารณะแบบหยอดเหรียญ โทรศัพท์ที่ติดตั้งโดย TOT โทรศัพท์มือถือระบบในเครือ AIS และ DTAC)

การให้คำปรึกษาแนะนำผ่านทางอีเมล์และเว็บไซต์ (By E-Mail and Webpages) ในยุคแรก บริการนี้มีไว้ให้แก่ประชาชนซึ่งไม่สะดวกในการติดต่อโดยใช้โทรศัพท์ แต่สามารถส่งจดหมายปรึกษาได้ ปัจจุบันพัฒนามาเป็นการให้บริการผ่าน E-mail: hotlinecenter@hotmail.com และเว็บไซต์ www.hotline.or.th

การนัดหมายมาพบ (Meeting by Appointment) เป็นการให้คำปรึกษาแนะนำรายบุคคลและการทำจิตบำบัดเป็นรายกลุ่ม เช่น กลุ่มพัฒนาบุคลิกภาพ วัยรุ่น ผู้ปกครองที่มีปัญหาลูกวัยรุ่น หญิงชายขายบริการทางเพศ หลากหลายทางเพศ ภรรยาที่มีปัญหาเรื่องสามี รวมทั้งยังมีคู่สมรสและครอบครัว สำหรับการพัฒนาสมาชิกในครอบครัว เป็นต้น บริการนี้ต้องนัดหมายเวลา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ด้อยโอกาสที่มีฐานะยากจน รายได้น้อยสามารถเข้าถึงบริการได้ฟรี ได้แก่ เด็กและวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา คนว่างงาน หรือเป็นกรณีการขอความช่วยเหลือของผู้หญิงและเด็กด้อยโอกาส หรือเป็นกรณีของเหยื่อในเป็นภาวะวิกฤต เช่น ผู้หญิงที่ถูกข่มขืน ถูกกระทำทางเพศ แม่บ้านที่ถูกทุบตี พยายามฆ่าตัวตาย เด็กที่ถูกทารุณกรรม เด็กเร่ร่อน เป็นต้น

การให้คำปรึกษาแนะนำผ่านทางอีเมล์และเว็บไซต์ (By E-Mail and Webpages) ในยุคแรก บริการนี้มีไว้ให้แก่ประชาชนซึ่งไม่สะดวกในการติดต่อโดยใช้โทรศัพท์ แต่สามารถส่งจดหมายปรึกษาได้ ปัจจุบันพัฒนามาเป็นการให้บริการผ่าน E-mail: hotlinecenter@hotmail.com และเว็บไซต์ www.hotline.or.th

2) การเผยแพร่ข้อมูลโดยเอกสารสิ่งพิมพ์ (Publication) โดยมูลนิธิฯ จะผลิตเอกสารและตำราเพื่อเป็นข้อมูลทางการศึกษาทางจิตวิทยาและบริการสังคม เช่น ตำราวิชาการและหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คที่ให้ความรู้ด้านจิตวิทยา การให้คำปรึกษาแนะนำ ผู้หญิง ครอบครัว และโรคเอดส์ เป็นต้น

3) การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางสื่อมวลชน (Public Relation on Psychology and Social Service)

เป็นการร่วมผลิตรายการทางสื่อมวลชนสาขาต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ วิดีโอ นิทรรศการ เป็นต้น ตามคำเชิญของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

4) ฮอทไลน์สายเอดส์ (AIDS Hotline) โดยศูนย์ฮอทไลน์เริ่มบริการด้านเอดส์ในปี 2532 และเปิดฮอทไลน์สายเอดส์ในปี 2534 เพื่อให้ความรู้พื้นฐานด้านเอดส์ ให้คำปรึกษาแนะนำ และสร้างทัศนคติที่ดีต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ป่วยเอดส์ โดยการสนับสนุนจากกองโรคเอดส์ กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข (สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในปัจจุบัน) และองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (TOT ในปัจจุบัน) ซึ่งผู้ใช้บริการจากทั่งประเทศ สามารถใช้บริการได้ฟรีในเครือ ข่ายโทรศัพท์ของ TOT, AIS และ DTAC ปัจจุบันใช้หมายเลขบริการเดียวกับฮอทไลน์สายด่วน ที่ให้บริการทางจิตวิทยา

5) สายด่วนสุภาพบุรุษ (Men’s Hotline) มูลนิธิเปิดให้บริการสายด่วนสุขภาพบุรุษในปี 2542 เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำและจิตบำบัดแก่ผู้ชายที่ก่อความรุนแรงในครอบครัว หรือเคยรู้เห็นหรือเป็นเหยื่อจากความรุนแรงในครอบครัวทุกรูปแบบ โดยการสนับสนุนขององค์การพัฒนาสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UNIFEM (UNWomen ในปัจจุบัน) และ The Asia Foundation ทำให้มีผู้ชายที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในครอบครัวจำนวนมากเข้ามาปรึกษา พร้อมกันนี้ยังได้ศึกษาพฤติกรรมการก่อความรุนแรงของผู้ชายไทย ปัจจุบันบริการนี้ใช้หมายเลขบริการเดียวกับฮอทไลน์สายด่วน ที่ให้บริการทางจิตวิทยา

6) บริการด้านการฝึกอบรมทางจิตวิทยาของสถาบันจิตวิทยาฮอทไลน์ (Hotline Institute of Psychology) เพื่อให้บริการวิชาการและพัฒนาวิชาชีพของนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ทำหน้าที่ด้านการให้คำปรึกษาแนะนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา บริษัทเอกชน หรือหน่วยงานอื่นที่สนใจในด้านจิตวิทยาการให้คำปรึกษาแนะนำ โรคเอดส์ การพัฒนาบุคลิกภาพ การสร้างทัศนคติในทางบวกเพื่อเพิ่มคุณภาพ และประสิทธิภาพในการสร้างผลผลิต หลักสูตรฝึกอบรมเหล่านี้จัดเพื่อให้บริการแก่นักวิชาชีพทั้งในและจากต่างประเทศที่ต้องการมาเรียนรู้ประสบการณ์ของมูลนิธิฯ


กลับด้านบน